ทั้งงานราษฎร์ งานหลวง โอยยยย พระเจ้าช่วยด้วย กล้วยทอดน้ำมันยังไม่ทันร้อน หันไปอีกทีลูกตีกัน อีกสิบห้านาทีถ้าไม่ออกตอนนี้ รถติด ไปทำงานสาย โดนหักเงินเดือนอีก ทุกสิ่งในปฐพีที่แม่ทำงานจะเป็นได้ เธอเป็นมาหมดแล้ว และมันแสบสันต์กับชีวิตมาก เอ้า! มาดูลิสต์ตอกย้ำเข้าไปอีก คุณแม่ทำงานทุกท่าน เคยเจอแบบนี้กันมั้ยยยย
1. ทำได้เพียงทาครีมลวกๆ ก่อนออกจากบ้าน
ถึงจะมีสุดยอดมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ผิวเด้ง เซรั่มหน้าขาว รองพื้นเนื้อเทพอะไรอยู่บนเชลฟ์ห้องน้ำ แต่แม่ทำงานจะได้แต่ยืนมองตาปริบๆ ทำได้เพียง หยิบน้ำมัน หรือครีมอะไรที่กดง่ายๆ ด้วยนะ มาทาๆๆๆๆ บางทียังไม่สามารถทากันแดดทับได้เลย จะเหลืออะไร? ฝ้ามาน่ะสิ ทางแก้คือต้องพกครีมอีกเซ็ตไว้ในรถ พกอีกเซ็ตไว้ออฟฟิศ พอรถติดต้องหยิบทุกอย่างมาโบ๊ะ แต่ถ้าต้องไปส่งลูกก่อนไปทำงาน ก็ฝันไปเลย ไม่มีทาง!
2. “โอย แม่สายแล้วๆๆๆๆๆ”
ประโยคฮิตติดปากแทบจะทุกเช้า ปากพูดไป มือก็หยิบนม ขนมปัง เนย มาทาๆๆๆ “เอ้า ลูกกินไปๆ” “ไม่กินเหรอ เออ ไม่ต้องกิน” โครม! พร้อมๆ กับลากลูกขึ้นรถรัวๆ แม่ที่โชคดีหน่อยคือลูกมีรถโรงเรียนมารับ แม่ก็สามารถย้วยกับตัวเองได้นิดหนึ่ง แต่ถ้าต้องขับรถไปด้วยกัน ความครียดจะมาทันที
3. หรือไม่ก็ไปมันเช้ามากไปเลย
อีกสายหนึ่งของแม่ทำงานคือ ก็ถ้ารถจะติด ต้องไปสายทั้งแม่ทั้งลูก งั้นเราตื่นมันตีห้าแล้วรีบออกกันเลย แม่หลายคนทำแบบนี้นะ นับถือในความถึกของเธอ ลูกๆ น่ะยังโอเค เพราะเด็กนอนเร็วกว่าแม่ และพลังเยอะกว่ามาก แต่อีแม่ที่ต้องซักผ้า 3 ตะกร้าก่อนนอนน่ะสิ มันคือหายนะของสุขภาพชัดๆ หันไปอีกทีทุกเช้าแม่คือคนที่รูดบัตรเข้างานคนแรก 7 โมงมาถึงละ แล้วไง? ก็ไม่มีใครเห็นอยู่ดี เพราะไม่มีใครเขามาเวลานี้กัน
4. ไม่มีอะไรไปตามแพลนที่วางไว้จริงๆ และตลอดไป
ต่อให้แพลนแล้วแพลนอีก โอเคนะ วันนี้จะรีบไปคุยงานแปดครึ่ง ต่อด้วยออกไปหาลูกค้า และจะรีบกลับมาให้ทันหกโมงป้อนข้าวลูก ล้ม! ลูกอ๊อกตอนเช้า อีกคนร้องไห้บ้านแตก ตีกันอีก โอยยย แพลนล้ม ทำให้กลางวันทั้งวันแม่ทำงานไม่ทัน ต้องลากต่อไปถึงสามทุ่ม พัง!
5. สิ่งที่มีความสุขที่สุดคือ นั่งเฉยๆ นี่ล่ะ
แม่ทำงานที่ต้องเลี้ยงลูกเองด้วย สิ่งที่เธอมักทำบ่อยๆ และชอบมากคือ “นั่งเหม่อ” แบบไร้จุดหมาย ปล่อยเกียร์ว่างไปเลย ไม่อยากดูทีวี ไม่อยากฟังเพลง ไม่อะไรทั้งนั้น ขอแค่อยู่กับลมหายใจตัเองก็พอ
6. คอแข็ง ไหล่พัง ปวดหัวไปถึงก้านสมอง
เพราะระหว่างป้อนข้าวลูกสองคน แม่ทำงานจะต้องฟังก์ชั่นตัวเองเรื่องงานไปด้วย ตาจ้องคอมพ์ แขนขวาป้อนลูกคนนึง แขนซ้ายป้อนอีกคน และก่อนนอนต้องมานั่งเคลียร์งานทุกสิ่ง สิ่งที่เกิดคือออฟฟิซ ซินด์โดรมจะมาเร็วมาก อยู่ดีๆ หน้าชาไปด้านหนึ่ง ปวดหัวร้าวเลย น่าสงสารที่สุด
7. วันลาป่วยของแม่ คือการเฝ้าไข้ลูก
แม่ไม่ป่วย แม่ไม่ตาย แม่ไม่เคยมีวันลา เมื่อไหร่ที่ลูกตัวร้อนปั๊บ เอาละ “หัวหน้าคะ ขอลาป่วยค่ะ” แต่ความจริงแม่ไม่ได้ป่วยหรอก แม่ต้องมานั่งป้อนข้าวต้นข้างๆ ลูก เพราะลูกไม่เอาใครเลย หาแต่แม่ๆๆๆๆ และลึกๆ แม่ก็รู้ว่ามีแม่คนเดียวเท่านั้น ที่จะเข้าใจอาการป่วยของลูกได้ดีที่สุด ลาสิ ลาเลย!
8. ความนอยด์คือเพื่อนรักของแม่
แม่ทำงานจะมีนิสัยอย่างหนึ่งคือ เธอจะมัลติทาสก์เก่งมากๆ เธอสามารถทำอะไร 5 อย่างไปได้พร้อมๆ กัน และเมื่อเธอเป็นสาวทำงาน เธอต้องแพลนอะไรที่ทำงานตลอดเวลา ทำให้เธอกลายเป็นนักออร์กาไนซ์ทุกสิ่งไปด้วย ความกังวล ลน กลัวโน่นนี่ เลยมาตาม ลองให้แม่ทำงานขับรถพาลูกไปเที่ยวดูสิ เธอเก่งจีพีอาร์เอสที่สุด และรู้ทันคนมาก ใครมาหืออืออะไรนิด อย่าหวังว่าจะรอด ก็เลยทำให้แม่ห่วนโน่นนี่ไปหมด สิ่งที่เกิดคือแม่กลายเป็นคนหมดพลังเร็วมาก และสุดท้ายร่างพัง ใจพัง ท้อเลยดีกว่า
9. รู้สึกผิดตลอดเวลา
ไปทำงานก็รู้สึกผิด เดินทางไปประชุม ก็รู้สึกผิด กลับมาบ้านอยู่กับลูก มีลาบ้าง อะไรบ้าง ก็รู้สึกผิดกับออฟฟิศ รอบทิศมีแต่ความรู้สึกผิด ยิ่งเวลาต้องทำงานดึก หรือไปงานเลี้ยงอะไร ใจนึงก็อยากไปบ้าง อยากสังสรรค์บ้าง แต่พอก้าวขาเข้างานเท่านั้นล่ะ ความรู้สึกผิดแล่นปรี๊ดดดดเลย จะเฟซไทม์ก็ไม่ได้ เดี๋ยวทางบ้านหาว่าเราร่าเริ่งไปมั้ย ก็เลยต้องเฟคๆ ไป กลับไปหาลูกเลยก็ไม่ไหวมะ แม่ต้องมีสังคมบ้าง และก็จะคอยถามตัวเองตลอด “ฉันทำแบบนี้ถูกต้องแล้วใช้มั้ย” เจอเพื่อนมีลุกก็จะถามเรื่องนี้ หรือบางทีจะไปงานอะไร ไม่แน่ใจขนาดว่าต้องโทร.ถามหมอดูกันเลย
10. แต่คุณก็ทำมันได้นี่นา
มันไม่ง่ายเลย เลี้ยงลุกด้วย และต้องทำงานไปด้วย แต่สุดท้าย คุณก็ทำมันได้นี่นา อาจไม่ได้เพอร์เฟ็คท์มาก แต่มันก็โอเคสำหรับครอบครัวเล็กๆ ลูกน้อยที่ยังคงร่าเริ่งวิ่งดีใจออกมารับแม่ทุกวันไม่ใช่หรือ? นั่งเฉยๆ กับตัวเองแล้วบอกตัวเองว่า
“ฉันโอเค ฉันเชื่อว่าฉันทำได้” แล้วคุณจะผ่านทุกอย่างไปได้เอง
เอาใจช่วยสุดแรงเลยค่ะ
