เรารู้ว่าคุณพ่อคุณแม่หลายคนที่ทำงานกลับมาบ้านเล่นกับลูก ก็อยากหาอะไรมาดูกับลูกหรือบางทีก็แอบให้ลูกดูไปเลย เราจะได้ไปทำอย่างอื่นให้ตัวเองบ้าง แต่งานวิจัยล่าสุดที่ออกมาบอกเลยว่าที่เด็กๆ นอนไม่พอ เพราะเจ้าสิ่งที่ดูก่อนนอนนี่แหละ น่ากลัวที่สุด!
เรื่องจริงของคุณแม่ท่านหนึ่งที่บอกว่าลูกชายของเธอหลับไปพร้อมกับหน้าจอทีวีที่เปิดทิ้งไว้ หรือไอแพดที่ถือดูหลับคามือ ทำให้รู้สึกว่าลูกนอนหลับไม่สนิทและยิ่งมีผลการศึกษาออกมาพบว่าถ้าให้ลูกดูหน้าจอทั้งทีวี แท็บเล็บหรือสมาร์ทโฟนช่วงก่อนนอน คุณภาพการนอนหลับจะแย่ลง และเอาเวลามานอนกลางวันมากเกินไปโดยเฉพาะเด็กๆ วัย 6-19 ปี
แสงสีฟ้า ตัวการนี่เอง
เป็นที่รู้กันว่าหน้าจอโทรศัพท์ แท็บเล็ต แลปท็อปทุกวันนี้มีบลูไลท์หรือแสงสีฟ้าที่เข้ามารบกวนการผลิตเมลาโทนินที่ช่วยให้รู้สึกง่วงนอน ขนาดที่ว่าถึงมีหน้าจอพวกนี้ แต่ไม่ได้เปิดดูก็ทำให้หลับไม่สนิทเท่ากับไม่มีจอใดๆ ในห้องนอนของเด็กเลย ระหว่างวันเด็กก็จะรู้สึกเหนื่อยๆ ด้วยเพราะว่าอะไรนั่นเหรอ ก็แค่มีอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ พวกนี้เด็กก็จะรู้สึกกระสับกระส่าย อยากให้พ่อแม่เปิดดู เลยทำให้นอนไม่พอไปอีก เวลานอนจริงๆ ไม่ใช่แค่หลับตาแล้วหลับนะ แต่ใจก็ต้องสงบและผ่อนคลายจริงๆ
เบน คาร์เตอร์ นักเขียนการศึกษาชิ้นนี้จาก King’s College อธิบายว่า “เราไม่สามารถวิ่งแข่งร้อยเมตรเสร็จแล้วจะเข้านอนได้ทันทีหรอก ร่างกายเรากำลังตื่นตัวเครื่องติดอยู่ ใจก็กำลังพุ่งไปข้างหน้า แล้วจะให้กระชากอารมณ์ปิดทุกอย่างง่ายๆ เป็นไปไม่ได้เลย อวัยวะข้างในเราก็เหมือนกัน” อย่างถ้าเด็กๆ โตหน่อยโพสต์รูปตัวเองในเฟซบุ๊ค ใจก็อยากรู้แล้วว่าเพื่อนจะมาไลค์กี่คน กดแชตกับเพื่อนต่ออีก ทีนี้ก็ยาวแน่นอน เบนบอกว่าเขาคิดว่าเราติดพวกอุปกรณ์พวกนี้ไง เราเลยไม่ควรให้เด็กมาติดตาม โดยเฉพาะตอนกลางคืน เอาไปให้ไกลเลยดีกว่า แล้วเข้านอนสงบๆ พร้อมกันทั้งบ้าน
