Mom's Life

ที่สุดของความรู้สึกไม่มีคุณค่าจะเกิดกับ “แม่เพิ่งคลอด-ลูก 3 ขวบ” ช่วยให้กำลังใจหน่อย!



ในชีวิตเกิดมาเป็นผู้หญิงเราโตมากับความมั่นใจมาตลอด เราตั้งใจเรียน มุ่งมั่นทำงาน มีความสุขกับเพื่อนสาว ดูแลครอบครัวและตัวเองได้แบบสบายๆ และวันที่เราแต่งงาน อยากเติมเต็มครอบครัวด้วยเจ้าตัวน้อย แต่ความเป็นจริงก็มาปะทะกับความเป็นแม่ของเราโดยเฉพาะในช่วงปีแรกๆ ที่บอกเลยว่ากว่าจะปรับตัวได้ก็รู้สึกพังไปสุดๆ

Momscream ได้ไปเจอข่าวงานวิจัยล่าสุดที่บอกว่าการเป็นแม่ทลายความมั่นใจหลายๆ อย่างของผู้หญิงอย่างเราไปเยอะมาก นักวิจัยบอกว่าคนเป็นแม่จะไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง ไม่เชื่อว่าตัวเองมีคุณค่าเริ่มต้นตั้งแต่เริ่มท้อง แต่มาพีคที่สุดก็คือตอนที่ลูกอายุประมาณ 6 เดือนจะย่ำแย่ที่สุด จากนั้นก็ค่อยๆ เฟลไปเรื่อยๆ จนกระทั่งลูก 3 ขวบ

เราจะบอกว่านี่ไม่ใช่ทำการทดลองกันแค่กลุ่มเล็กๆ แต่ได้ไปสอบถามคุณแม่ชาวนอร์เวย์เกือบ 85,000 คนมาตอบแบบสอบถามสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างท้องถึงลูก 3 ขวบ และไม่ใช่แค่แม่ท้องแรกเท่านั้นนะคะ ไม่ว่าจะมีลูกคนที่ 2 คนที่ 3 หรือ 4 ก็ถามทั้งหมด และคำตอบทุกกลุ่มก็ใกล้เคียงกัน ไม่ใช่แค่การเห็นคุณค่าและความสามารถของตัวเองลดลงหลังมีลูก แต่ความพอใจในเรื่องความสัมพันธ์ก็ยังลดลงไปด้วย เพราะถ้าผู้หญิงมีความสุขกับตัวเองน้อยลงก็มีความสุขกับสามีน้อยตามไปด้วย เอ๊ะ! นี่หรือเปล่าที่เราเหวี่ยงสามีจนทำให้ไฟว้กันไปหลายรอบ

 

นี่เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่ๆ ทั้งหลายรู้สึกผิดง่ายมาก จะนัดเพื่อนไปกินข้าว ฝากที่บ้านช่วยดูลูกก็รู้สึกผิด ทำงานไม่ได้เต็มที่ให้เสร็จจนดึกก็รู้สึกผิด เอาลูกเข้าโรงเรียนตั้งแต่เนิร์สเซอรี่เพราะไม่มีคนช่วยดูก็รู้สึกผิด…เพราะเรารู้สึกแย่กับตัวเองข้างในลึกๆ ไง!!

 

ศาสตราจารย์คอรีน แลร์ด จาก Columbia อธิบายว่า “เมื่อเราต้องเจอกับภาระหน้าที่ที่ไม่มีใครทำได้ เป็นบทบาทที่ชัดเจนอย่างการเป็นแม่ จิตของเราต้องปรับตามให้ได้ เอาง่ายๆ เลย ก็เพราะเมื่อใครต้องกลายเป็นแม่ ไม่ได้แปลว่าต้องตราหน้าว่าเธอคือแม่อยู่ตลอดเวลา นี่เลยทำให้คนอื่นบนโลกจะมองคุณเปลี่ยนไปกับสิ่งที่คุณเป็น ก่อนที่คุณจะได้พิสูจน์ตัวเองว่าคุณยังเป็นคนมีความสามารถเหมือนเดิมซะอีก นี่กำลังเป็นเรื่องที่หลายคนเข้าใจผิดนะคะ”

 

แม่ๆ หลายคนเลยสับสนในตัวเองอยู่ทุกวัน บางคนต้องลาออกจากงานมาดูแลลูก แต่ก็ยังอยากภูมิใจกับตัวเอง นี่เราเคยแต่งตัวสวย ได้ทำงานดีๆ พรีเซนต์งานสู้ไม่ถอย ทั้งที่สามีก็พร้อมซัพพอร์ตนะ แต่เราก็อยากทำอะไรที่ขึ้นชื่อว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลครอบครัว แค่จะให้เงินพ่อแม่ตัวเอง แต่ต้องปันส่วนนั้นจากเงินสามีก็ยังรู้สึกท้อแท้เบาๆ

 

หรือแม่ที่ต้องทำงานก็ต้องคิดเลยว่าเราจะหาเงินช่วยกันกับสามีเพื่อผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าเทอมลูก ต้องทุ่มเททำงาน ลูกป่วยยังต้องตัดใจฝากลูกไว้กับพี่เลี้ยงแล้วมาประชุมเครียดที่อาจจะมีคนพร้อมด่า ไม่เห็นค่าของเรา แต่ลูกของเราแท้ๆ กลับไม่ได้ดูแลเต็มที่ ไม่งั้นก็ขอลางานเฝ้าไข้ลูกดื้อๆ ที่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะโดนคนในออฟฟิศพร้อมจะประณามว่าเราเอาเปรียบคนอื่น แม่ๆ อย่างเราต้องคิดเองคนเดียวจนบางครั้งก็อยากมีคนเข้าใจให้ปรับทุกข์แบบที่เขาไม่รำคาญบ้าง

 

การเจอความจริงตรงนี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนอื่นๆ เข้าใจหัวอกแม่มือใหม่ที่ลูกยังเล็กว่าถึงภาพข้างนอกดูสตรองมาก แต่ข้างในแม่ๆ กลุ่มนี้เปราะบางและต้องการให้คนรอบข้างคอยให้กำลังใจอยู่เรื่อยๆ จำไว้อย่างหนึ่งว่า “แม่ๆ ไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกนะ!” ยังมีอีกหลายคนก็เจอเหมือนกัน

 

เอาเป็นว่าครั้งหน้าที่เราต้องเข้าไปในห้างแล้วเห็นแม่ถือของพะรุงพะรัง ลูกลงไปนอนดิ้นร้องไห้แผดลั่นกับพื้นและแม่คนนั้นพยายามที่จะสงบลูก สอนลูกอย่างเต็มความสามารถแล้ว อย่านึกตำหนิคุณแม่คนนั้นในใจหรือทำสีหน้ารำคาญที่เธอเอาลูกไม่อยู่ แค่ยิ้มให้กำลังใจเฉยๆ เหมือนบอกว่า “ไม่เป็นไรนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ” เท่านี้ก็ทำให้คนเป็นแม่มีลูกเล็กมีกำลังใจขึ้นมาแล้ว Momscream ขออยู่ #ทีมคุณแม่ ทุกคนค่ะ

 

 

4 August, 2017
Mom's Life