มัมสกรีมขอให้คุณแม่ทำงานตัวท้อปๆ ที่ทั้งทำงาน และเลี้ยงลูกเอง พี่เลี้ยงเอาลูกไม่อยู่ และสามีเธอก็ไม่ได้ช่วยอะไร ให้เธอเล่าให้ฟังว่า ทั้งทำงาน และเลี้ยงลูกแบบให้เวลาพอสำหรับเขาน่ะ ทำได้มั้ย เธอบอกเลยว่า ทำได้แน่นอน และดีด้วย และนี่คือสิ่งที่แม่ทำงานได้มาจากการ ลุยแหลกทั้งงานและลูกๆ เธอบอกว่า….
“เป็นแม่ทำงานมีข้อดีนะ เราจะรู้ว่าเรามีอีกโลกข้างๆ ตัวเสมอ และพอเราได้เข้าไปในโลกใบนั้น จะทิ้งทุกอย่าง และเต็มที่ที่สุด”
โลกใบนั้นของเธอก็คือลูกๆ เวลาที่แม่ทำงานอยู่กับลูก ส่วนใหญ่จะอินจัด และเต็มที่ เพราะเธอรู้ว่ามีเวลาไม่มากนัก ตาเลยสบกับลูกเต็มๆ หูก็จะฟังทุกคำที่ลูกพูด และถ้าให้ลุกขึ้นบ้าไปด้วยได้ เธอก็จะทำ มีเพื่อนคนหนึ่งไปเที่ยวกับเธอและลูกๆ เธอ ตกใจมากที่อยู่ดีๆ แม่ลูกก็เต้นกันกลางห้างพอได้ยินแพงที่ชอบ รู้เลยว่ามันเป็นโมเมนท์ของพวกเธอ
“เรารู้ว่าโลกอื่นๆ มันมีอะไรเฟคอยู่เยอะ มีคนหาผลประโยชน์ใส่ตัวกันเยอะ มีความไม่จริงอยู่เยอะ ก็เลยรู้ว่าโลกใสๆ ของลูกมีค่า และเข้าใจว่าจะต้องสอนเขาให้อยู่ในโลกได้ยังไง”
คุณแม่คนนี้เล่าว่า ถ้าไม่มีลูกก็คงไม่รู้ว่าคนที่จริงใจเดี๋ยวนี้มีน้อยมาก และทุกคนในโลกทำงานพยายามกดความอ่อนไหว้เอาไว้ ทุกคนต้องเข้มแข็งเพื่อจะอยู่รอด มันเลยทำให้เธอเห็นว่า ความอ่อนโยนในใจสำคัญ จะช่วยชีวิตเราให้เราอยู่ในโลกได้แบบที่ ไม่ต้องกดดันตัวเองเกินไป แล้วไม่ลืมความเป็นตัวเอง ทั้งหมดนี้เธอเอามาสอนลูกเนียนๆ “บอกลูกเสมอว่าแพ้บ้าง ชนะบ้าง ยอมพังบ้าง และก็ต้องสู้บ้าง” เธอไม่ยอมให้ลูกเสียธรรมชาติของหัวใจตัวเองไป เธอเลยบอกลูกตลอดว่า “ไม่ต้องเก่งเกินใครลูก แต่ขอให้เข้าใจหัวใจคนอื่น และมีน้ำใจไว้ยังไงก็ดีลูก”
“พอหาเงินใช้เองได้ ก็จะยิ่งรู้คุณค่าของเงิน จริงๆ ซื้อของน้อยมากๆ เลยนะ เข้าใจรุ่นแม่ๆ เลยว่าที่บอกให้เก็บเงินๆ เก็บไว้ซื้อการศึกษาดีๆ ให้ลูก ทำบ้านใหม่ หรือให้ลูกลงทุนทำอะไรตอนเขาโต”
ความเหนื่อยของการทำงานทำให้แม่ทำงาน สุดจะเข้าใจคุณค่าของเงิน และเธอๆ ถึงกับครางออกมาว่า “ไม่รู้ว่ารุ่นพ่อรุ่นแม่เราเขาเลี้ยงเรามาได้ยังไง เขาให้ทุกอย่างกับเราได้ยังไง เพราะมันเหนื่อยมากๆ” ลูกๆ ก็เลยจะเข้าใจเรื่องเวลา คุณค่าของเงิน เก็บเงินวันนี้ไว้ทำอะไรที่มีความหมายในวันหน้า แต่แม่ทำงานก็มีแอบบอกว่า “ไม่หวังว่าลูกจะเข้าใจเรื่องนี้เร็วนะ เพราะกว่าเราจะเข้าใจ ต้องมาเจอจริงๆ กับตัวเท่านั้น ถึงจะเก็บเงินเป็นเลย”
“ความรักสำคัญมาก มีฟูกให้ล้มไว้ ดีกว่าเดินคนเดียวแน่นอน”
แม่ทำงานที่เป็นซิงเกิลมัม กับที่มีคู่ชีวิตที่ดี จะบอกเราเลยว่า คนที่มีคู่ชีวิต เป็นเพื่อนคู่คิดกัน ต่อให้งานหนัก เหนื่อยยังไง เขาก็ยังมีคนให้กำลังใจรออยู่ มีบัดดี้พากันไปผ่อนคลาย ทำให้มีแรงกลับมาสู้งานหนักได้อีก แม่ซิงเกิลมัมเลยต้องรับมือกับความลุยเดี่ยวในทุกสิ่ง เธอเลยรู้ว่าความรักสำคัญต่อชีวิต “จะบอกลูกเสมอว่าความหมายของความรักคืออะไร คู่ชีวิตของลูกเขาไม่ต้องรวย ไม่ต้องเก่งอะไรมาก ขอให้ลูกได้เจอคนที่ใจดีๆ มองคนที่หัวใจ และเป็นน้ำเย็นให้ลูกนะ”
“ขอเพื่อนไม่ต้องเยอะ แต่คนที่เราบอกทุกอย่างในโลกได้ต้องมี!” ความกดดันที่อยู่ในใจเสมอของแม่ทำงาน จะเอ่อมาแบบวันเว้นวัน ความเครียดจะเยอะมาก และยังคำถามที่คอยถามตัวเองว่า เมื่อไหร่ฉันจะหายเหนื่อยสักที ทำให้แม่ทำงานที่เลี้ยงลูกหนักๆ ไปด้วย ต้องมีเพื่อนสนิทคุยได้ตลอด! เธอบอกว่า “ต้องเป็นเพื่อนคอเดียวกันสุดๆ เลยนะ แบบจริงใจมากๆ อยู่ทีมเดียวกับเรามากๆ เวลาคุยแล้วจะมันส์ และขำแทบบ้าตายกันไป ก็จะหัวโล่งทันที” เพื่อนคนนี้ยังเข้ามาสนิทกับลูกๆ เธอ เกิดเป็นสังคมแม่เพื่อนเล็กๆ ให้เด็กๆ ได้เปิดโลกขึ้นอีก จะเป็นพลังงานของผู้หญิงที่ซัพพอร์ตกันและกัน ลูกๆ ก็จะได้รับพลังงานนี้ไปด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นความในใจของแม่ทำงานที่เธอยอมเหนื่อย และยอมต้องจัดการอะไรมากๆ ในชีวิต เพื่อทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ก็เพื่อที่เธอจะได้อ้าปีกโอบลูกๆ ของเธอเอาไว้ เธอนี่ล่ะคือฟูกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลูกๆ
Copyright 2018 www.momscream.com