เป็นอีกครั้งที่คุณแม่ Momscream ได้ไปสัมภาษณ์เจาะลึกคุณหมอด้านมะเร็งนรีเวช นพ.ภานนท์ เกษมศานติ์ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เพราะเราได้ไปทดลองตรวจ HPV DNA เทคโนโลยีใหม่ในการรู้ลึกไปถึงสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสนี้ว่าเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหรือเปล่า หลังจากได้เข้าใจทะลุปรุโปร่ง ก็เป็นความรู้สึกว่ามีเพื่อนบอกเพื่อน มีพี่มีน้องผู้หญิงต้องให้ทุกคนมาตรวจเถอะ ขอร้องล่ะ!
เชื้อ HPV มีอยู่ทั่วไปและผู้ชายก็เป็นพาหะตัวดีเลย
คุณหมอบอกว่าไวรัส HPV ก็มีอยู่ตามผิวหนังเหมือนฝุ่นเกาะผิวเราดีๆ นี่แหละ แต่พอมันไปอยู่ที่อวัยวะเพศชาย ลูกอัณฑะหรือผิวตรงหัวหน่าว มีเพศสัมพันธ์แล้วเกิดสัมผัสผิวหนังต่อผิวหนัง ผู้ชายน่ะไม่เป็นหรอก แต่ผู้หญิงเนี่ยรับไปเต็มๆ เพราะเจ้า HPV นี่จะเติบโตได้ดีบางที่ โดยเฉพาะเซลล์ที่ปากมดลูกดันมีลักษณะเฉพาะเจาะจงอีก มีแอคทิวิตี้ในการแบ่งตัวหลุดลอกอยู่เสมอเลยทำให้เป็นที่ที่ไวรัสรักมาก พอเข้าไปได้เจอร่างกายที่กำลังอ่อนแอก็เข้าไปบริหารจัดการทำให้เกิดการแบ่งตัวที่ผิดปกติ และตรงปากมดลูกเราไม่รู้ว่าเกิดแผลหรือเปล่า เลยไม่รู้จริงๆ ว่าจะติดเมื่อไหร่
ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่อไหร่ เสี่ยงทันที!!
เอาเป็นว่าถ้าคุณคือคุณแม่ที่มีลูกน้อย แปลได้ว่าต้องเคยผ่านเพศสัมพันธ์มาแล้ว ลูกเราไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่แน่ๆ และอย่าเพิ่งคิดว่ามีแฟนจนมาเป็นสามีคนเดียว เป็นคนแรกของกันและกันด้วยจะไม่เป็น เพราะอย่างที่บอกว่าเชื้อไวรัสมีอยู่ทั่วไป มีแฟนคนเดียวก็เป็นได้ เพราะ HPV ติดต่อง่ายและติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นหลัก จากสถิติมีผู้หญิง 4 ใน 5 คนติดเชื้อ HPV กันมาแล้วช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต คุณพระคุณเจ้า ช่วยลูกด้วย… ทางที่ดีที่สุดคือให้ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์มา ควรตรวจเช็คปากมดลูกเพื่อหาเชื้อ HPV อย่างการตรวจ HPV DNA อันนี้ดีมาก ตรวจลึกถึงสายพันธุ์ 16 และ 18 ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกถึง 70% ถ้าผลเป็นปกติก็อาจเว้นการตรวจไปได้ถึง 3 ปีเลย แต่คุณหมอบอกว่าการตรวจภายในก็ยังควรต้องทำทุกปีนะ มาเช็คว่ามดลูกอื่นๆ ยังปกติอยู่หรือเปล่า เพราะยังมีเรื่องเนื้องอก ถุงน้ำในรังไข่ที่ต้องดูเป็นประจำ
บริเวณปากมดลูกที่เกิดเป็นมะเร็งได้
ติด HPV แล้วไม่ได้แปลว่าต้องเป็นมะเร็งปากมดลูก
เข้าใจกันใหม่ก่อนว่ามะเร็งปากมดลูกที่ศึกษามาเกิดจากเชื้อ HPV เกือบ 100% แต่เชื้อ HPV มีตั้ง 100-200 สายพันธุ์ มีแค่ 15 สายพันธุ์เท่านั้นที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก และอย่าเพิ่งตกใจถึงเราจะติด HPV มา ถ้าร่างกายแข็งแรง ก็ขับออกได้เอง เลยเป็นเหตุผลว่าผู้หญิงเกือบทุกคนเคยติด HPV มาแล้วแต่ไม่ได้พัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูก รู้มาขนาดนี้แล้วคุณหมอก็สรุปว่ามะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งชนิดเดียวที่ต้องมีเชื้อไวรัสนี้ถึงจะเป็นมะเร็งได้ เอาเป็นว่าโชคดีแค่ไหนที่แทบจะเป็นมะเร็งอย่างเดียวที่ป้องกันได้ ไม่เหมือนมะเร็งอื่นๆ ที่มีหลายสาเหตุหลายปัจจัยที่ทำให้เกิด ความดีงามที่ซ่อนอยู่อีกอย่างเลยเชื้อไวรัส HPV กว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใช้เวลานานเป็นปี ถ้าตรวจเป็นประจำก็เจอก่อนที่จะกลายเป็นเนื้อร้ายแน่นอน เพราะการที่เชื้อพัฒนาตัวไปได้ขึ้นอยู่กับ 2 ข้อ
1.ตัวเชื้อเอง ต้องเป็น HPV 15 สายพันธุ์ที่เสี่ยงสูงหน่อย ก็ต้องมีดูว่าเรามีมากมีน้อย ร่างกายสู้จนมีโอกาสหายเองมั้ย หรือเชื้อรุนแรงแค่ไหน
2.ภูมิคุ้มกันของเราเอง นึกภาพถึงเชื้อไวรัสอย่างไข้หวัด แผลเริม ไข้เลือดออก เกิดแล้วไม่มียาฆ่าเชื้อ ถ้าภูมิดีก็เคลียร์การเกิดโรคได้สบาย แต่ถ้าเริ่มรวน ก็เป็นขึ้นมาได้ บางคนอาจจะติดเชื้อมา เราไม่เห็นอาการหรอก ต้องใช้เวลาเป็นปีในการรักษาตัวเอง เพราะโรคเกิดจากเซลล์ชั้นล่าง กว่าจะค่อยๆ ลอกออกไปหมด กระบวนการเกิดช้า ส่วนใหญ่ 60-70% หายได้เอง ฟังอย่างนี้แม่ๆ ต้องรีบทำให้ร่างกายตัวเองแข็งแรงที่สุดก่อน หรือถ้าตรวจเจอก็มีเวลารักษา โอกาสที่จะเป็นถึงมะเร็งก็ลดลงไปเยอะมาก
เอาเป็นว่าคนที่เป็นมะเร็งปากมดลูกจริงๆ คือคนที่ไม่มาตรวจ HPV เลยนานๆ หรือตรวจแล้วไม่มาฟังผล รู้ว่าผิดปกติไม่ยอมรักษาต่อ หรือบางคนตรวจครั้งเดียวแล้วคิดว่าไม่เป็นหรอก ถ้าถามว่า Pap Smear อย่างเดียวได้มั้ย คุณหมอบอกว่าถ้าจะตรวจแล้ววิธี HPV DNA ก็ช่วยให้รู้แบบสุดถึงสายพันธุ์ไปเลย ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีเหมือนกัน
ดูแลลูกๆ แล้วต้องหันมาใส่ใจตัวเองคู่ไปด้วย
คุณหมอภานนท์บอกวิธีการดูแลตัวเองที่หลายคนรู้ แต่ยังทำไม่ได้ ถึงเวลาที่จะต้องลุกขึ้นมาสู้ดูแลตัวเองกันซักตั้ง
*อาหารต้องครบ ได้สารอาหารเพียงพอ จัดเวลาในการกินให้ครบมื้อ
*ออกกำลังกาย รู้ว่าเลี้ยงลูกเกือบตลอดเวลา แต่ก็ต้องมีเวลาขอแค่ 30 นาทีเป็นอย่างน้อยเน้นความสม่ำเสมอมากกว่าความหนัก สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ช่วยสร้างภูมิทั้งร่างกายรวมทั้งภูมิเฉพาะที่ปากมดลูกด้วย
*นอนแบบหลับลึก เป็นกิจกรรมล้ำค่าของคนเป็นแม่ที่จะได้นอนแบบมีคุณภาพ ไม่ตื่นมาแล้วปวดหัวตื้อๆ
*ความเครียด ข้อนี้สำคัญที่สุด เพราะจะเป็นตัวกดภูมิทุกอย่าง เครียดแล้วป่วยง่าย พังไปทั้งระบบ
*บุหรี่ รู้ว่าแม่ๆ หลายคนอาจจะไม่ได้สูบ แต่สามีหรือคนที่บ้านสูบเป็นคนรับควันไปเต็มๆ
สำหรับคุณแม่ที่มีลูกสาว: เมื่อลูกอายุประมาณ 9-10 ปีก็สามารถพามาฉีดวัคซีน HPV ได้แล้ว คุณหมอย้ำว่าควรฉีดก่อนที่จะได้เจอเชื้อไวรัสนี้จะดีที่สุด เรารู้มาว่าวัคซีนนี้กลายเป็นวัคซีนแห่งชาติแล้วดีใจกับเด็กผู้หญิงไทยที่จะลดความเสี่ยงได้พอสมควร
รีวิวความรู้สึกตอนตรวจกันดีกว่า
5555 ความอายอะไรก็บอกเลยว่าไม่มี เพราะแม่ที่ผ่านการคลอดลูกมาแล้วคงเข้าใจดี ขึ้นขาหยั่งแล้วก็แทบไม่รู้สึกอะไรเลย จากนั้น 1-2 สัปดาห์ทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งผลซึ่งออกมาให้โล่งอกว่าปกติดีค่ะ เบาใจได้ว่ามะเร็งปากมดลูกน่าจะยังไม่มาเยือนภายใน 3-5 ปี แม่ๆ ท่านไหนสนใจการตรวจ HPV DNA ตอนนี้มีอยู่หลายโรงพยาบาลทั้งรัฐบาลและเอกชน สามารถโทรไปสอบถามได้เลยค่ะ
